“ณเดชน์” เปิดเผยมั่นใจแล้วถึงได้ กล้าบอกว่า “ญาญ่า” นี่แหละคือคนที่จะแต่งงานด้วย ทุกอย่างมิได้เป็นการกดดันกัน บอกถ้าเกิดถึงเวลา ที่ใช่ก็คงจะรู้ตัวเอง แต่แอบหวั่นไม่รู้ตอนจะ ขอจริงแฟนสาว จะจับได้หรือเปล่า
เพราะว่าโกหกไม่ค่อยเนียน เปิดเผยงานแต่งอาจจะจะต้องเป็นงานใหญ่จริง ๆ เพราะว่าถ้าเกิดไม่ชวนคนไหน ก็อาจโดนเคือง และก็มีแต่คนสำคัญในชีวิต ทั้งนั้นที่ต้องการที่จะให้มาร่วมยินดีด้วย
ตั้งแต่พระเอกสุดฮอต “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ออกมาประกาศ กลางรายการว่าสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันต์” นี่แหละคือเจ้าสาว ของตนแน่ ๆ ตั้งแต่นั้น ก็ทำเอาไปไหนมาไหน ทั้งสองถูกยินดีและก็ถูกถามอยู่เสมอ ว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นช็อต ขอแต่งงานสักที ล่าสุดหนุ่ม ณเดชน์ ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้ง สารภาพว่ามิได้ เป็นการกดดันกัน แต่เป็นความมั่นใจของตนแล้วจริง ๆ ถึงได้พูดออกไป
ณเดชน์ 3 แซ่บผมไปทุกรอบ เขาก็ถามจี้เมื่อไร ๆ (ยิ้ม) 7-10 ปีแล้วมั้งครับ ตั้งแต่ไปรายการ 3 แซ่บ
จนวันนั้นไปออกด้วยกัน พี่หนุ่ม(กรรชัย กำเนิดพลอย) ก็จี้อย่างยิ่ง ผมก็เลยบอกโอเค ผมก็ยังไม่รู้เมื่อไหร่ ผมก็รู้สึกมั่นใจ น้องนี่แหละ กล่าวออกไป ด้วยความรู้สึกมั่นอกมั่นใจ มั่นใจจริง ๆ เราก็ไม่อายที่จะกล่าวออกไป ว่ายังไงก็เป็นเขาอยู่แล้ว แต่เรา ก็มิได้ไปเร่งรัดตัวเอง หรือบอกเขาไปโดยปริยาย ว่าเราขอเขานะ ก็ไม่ต้องการให้เขาคิดเหมือนกัน ประเดี๋ยวเราจะไปกดดัน เขาหรือเปล่า
เขาก็คิดว่าเรากดดันเขา เราก็คิดว่าเราจะไปกดดัน เขาหรือเปล่า ผมก็เลยกลับมาคุย กับเขานอกรอบ ไม่ต้องการจะป่าวประกาศเพื่อให้ เป็นกระแสอะไร แต่รู้สึกมั่นอกมั่นใจ ที่จะพูดยังงั้นมากกว่า เธอโอเคมั้ย เขาบอกเขาโอเค ไม่มีปัญหาเลย
เขาก็พูดว่า หลังจากนี้เรา ก็จะต้องเหนื่อยตอบละกันนะ เนื่องจากว่าเราได้กล่าวบางอย่างออกไปแล้ว (หัวเราะ) ผมก็บอกไม่เป็นไร เนื่องจากว่าผมแฮปปี้ เนื่องจากว่าเราก็พร้อมแล้ว
เผยโมเม้นต์ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ร้องไห้ เพราะว่าเห็นกันมานาน
” ที่กล้าพูดเพราะ ว่าเป็นพี่หนุ่ม พี่ชม พี่แอฟ ด้วยครับ และก็มีความรู้สึกว่าเราอยากจะ บอกเขาด้วยว่า เราก็กล้าที่จะพูดกับทุกคน มันไม่ใช่เรื่องที่ เราจะมาเก็บ สักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อไรค่อยมาว่ากันอีกครั้งนึง ผมก็เซอร์ไพรส์ตัวเองเช่นเดียวกันครับ (ยิ้ม) พี่หนุ่มก็ร้องไห้ พี่หนุ่มบอกแกดีใจ แกก็เห็นมา แกก็เข้าใจ มาได้ขนาดนี้ เขาก็ดีใจ
แฟนคลับ เหรอครับ ผมว่าแฟนคลับคู่ เขาก็รอได้ยินคำนี้มา ถ้าเกิดทำให้เขาแฮปปี้ในอีกวันได้ ผมก็ดีใจในคำตอบของผม ที่จะทำให้เขาฟินนาเล่ (ยิ้ม) ตามมาตลอด 10 ปี ฉันไม่ผิดหวัง ส่วนครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่าย เขาสุดแล้วแต่เด็ก ๆ แม่ผมก็บอกว่าแล้วแต่ พร้อมเมื่อไหร่จริง ๆ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ว่าขอให้ดูว่า พร้อมทั้งสอง ขอให้คุยกัน ”
บอกตั้งเป้าอยากแต่งตั้งแต่อายุ 30
” ผมเคยฝันนะว่าอายุ 30 ผมจะแต่งงาน มันจะมีความเป็นเด็ก ประเดี๋ยวจะมีภาพฝันของตนเอง โตขึ้นมาอายุ 30 จะแต่งงาน ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ที่เราจะมีเป้าหมาย มันไม่สำคัญเสมอไป เวลานี้ผมมีความรู้สึกว่าเมื่อไร ที่มันถึงเวลามันจะรู้สึกเอง ว่าเราพร้อมแล้ว มันจะมีโมเมนต์นั้นขึ้นมา
ถามว่าโมเมนต์นั้น น่าจะเป็นแบบไหน ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่รอไม่ไหวแล้ว มันร้อนใจ มันคิดว่าเราไปโฟกัส เรื่องนั้นส่วนอื่น ๆ ในชีวิตเราแล้ว ไปโฟกัสเรื่องเขามากยิ่งกว่าส่วนอื่น ๆ ในชีวิตเรา อันนี้น่าจะ เป็นความรู้สึก มันมีความพร้อมแล้ว ”
บอกถ้าเกิดงานไม่โอเวอร์หลุดโลกไปเลย ก็เรียบง่ายสุด ๆ
” ผมเป็นคนหลุดโลก โอเวอร์หน่อย ๆ ผมก็คิดในแบบที่ โอเวอร์ไว้เหมือนกัน และคิดสวนกับความรู้สึก ไว้เหมือนกัน หมายความว่าจากความโอเวอร์เป็นแบบเรียบง่าย อะไรแนว ๆ นี้ แต่ปัจจุบันนี้เวลาไปไหน ทุกคนก็ยินดีหมดเลย
ทุกคนเข้าใจกันหมด แล้วว่าจะมีงาน พบแม่บ้านที่กองถ่ายวันนั้น ก็บอกแต่งงานเมื่อไร อย่าลืมชวนป้าไปด้วยนะลูก (หัวเราะ) แต่ญาญ่า ก็บอกว่ากลัวผมจะกดดัน เขาบอกเสมอว่ามิได้กดดันนะ อย่างที่บอกเขา ก็รู้ว่าเขามีงานที่จะต้องรับผิดชอบเยอะ ทั้งปีนี้และก็ปีหน้าด้วย
ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าถ้าเกิด ในเมื่อตอนนี้มันแฮปปี้กันมาก ๆ แล้ว และก็เราโหยหา ที่จะได้พบกัน ผมว่ามันก็ตอบชัด ว่าเรื่องการแต่งงาน มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ถ้าเกิดเทียบกับความรู้สึก ที่เรามีให้กัน ”
บอกความฝันของ “ญาญ่า” คือแต่งที่ประเทศนอร์เวย์
” ผมก็อาจรู้สึกเหมือนกัน ว่าเราก็ต้องการที่จะให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ ผมกับน้องจริง ๆ ก็รู้จักกันมาเยอะ คบกันมานาน ผ่านอะไรกันมาเยอะเหมือนกัน กว่าเราจะมาถึงวันนี้กันได้ ผมก็รู้สึกว่า เราก็ดีใจและก็ เราก็คิดว่าจะไม่ปล่อย คนนี้ไปแน่ ๆ ก็ประเดี๋ยวถ้าเกิดถึงวันนั้น ก็จะบอกนะครับ น้องเองก็บอกว่าขอสะสางงานก่อน ผมเองก็เป็นเหมือนกัน ถ้าเกิดสมมุติขอกัน แล้ววันพรุ่งนี้ผมจะต้องไปทำงาน ผมก็ไม่เอานะ มันจะต้องว่างจริง ๆ แต่เราก็จะไป เช็กคิวเขาไม่ได้นะ แบบเธอ ๆ ว่างเมื่อไร โป๊ะเลย (ยิ้ม) ฝั่งเรายังเก็บได้ไง แต่ว่าฝั่งเขาไม่ได้ (หัวเราะ)
เขาอยากได้โมเมนต์ ขอแบบไหนมั้ยเหรอ เขาไม่เคยพูดเลยครับ เขาแค่บอกว่าอยากมีงาน ที่บ้านเขาที่ประเทศนอร์เวย์ตรงสวน ที่มีต้นไม้เป็นรูปหัวใจ เขามีความรู้สึกว่าเป็นภาพฝันของเขา ที่ต้องการที่จะให้คุณพ่อเดินจูงมือมาส่งตัว แต่ว่านั่นน่าจะเป็นงานฝรั่ง งานแบบครอบครัวไปเลย ”
สารภาพอาจจะต้องเป็นงานใหญ่แห่งปี เพราะว่ามีแต่คนสำคัญในชีวิตทั้งนั้น
” ผมก็เคยคิดเหมือนกันว่า ทำเช่นไรก็ได้ให้งานเล็กที่สุด ทำเช่นไรก็ได้ให้ประหยัดที่สุด แต่เท่าที่คุยกับหลายคนที่ผ่านมา กับรุ่นพี่นักแสดงด้วยกัน เป็นไปไม่ได้เลยครับ ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า เป็นผู้ใหญ่ในช่อง ในวงการ คนที่เคยให้โอกาสเรา กว่าเราจะมาถึงทุกวันนี้ได้ ก็ตามธรรมเนียมไทย เราก็จะต้องเรียนเชิญเขามาครับผม ผมว่าก็อาจต้องเป็นแบบนั้น ก็อาจมีแค่วันเดียว ในชีวิตการที่ได้มีบุคคลเหล่านั้น เข้ามาอยู่ในงาน ถึงแม้ว่าจะเห็นกันไกล ๆ ก็จะต้องให้เขามาอยู่ตรงนี้
อันนี้พูดเหมือนมีงานแล้วนะครับ (หัวเราะ) ยังไม่มีวัน ยังไม่มีอะไร ยังไม่ได้ขอเลย (ยิ้ม) ยังมิได้แพลน ถึงงานอะไรขนาดนั้น แต่ที่แน่ ๆ คือจะต้องมีที่ไทย จะต้องเชิญชวนคนโน้นคนนี้มา ซึ่งคุยกับรุ่นพี่หลาย ๆ คน แล้วเขาบอกว่าไม่มีทาง ถ้าเกิดไม่เชิญชวนมีเคือง ตอนนี้ก็กลายเป็นจะต้อง ตอบเรื่องแต่งงานมากยิ่งกว่าพี่หมากอีก แต่ว่าพี่หมากเขาอาจโดนงานรุม ในขณะนี้ด้วย เขาเต็มที่แล้วไง เขาแค่รองานของเขา
ทางคุณแม่มีคุย ๆ ทาบทามกันบ้างหรือยังเหรอ ยังครับ มันยังไม่ว่างขนาดนั้น ยังอยู่ในช่วงที่เราได้พูดเรื่องนี้ไป แต่ถามว่าเมื่อไร มันบางทีอาจไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ ก็จะต้องดูฤกษ์ยามด้วยแหละ เผื่อผิดวันแล้วฝนตกขึ้นมา ไม่ได้เลยนะ ตอนนี้ก็ให้แฟน ๆ ได้ชุ่มฉ่ำหัวใจ กันไปก่อนครับผม (ยิ้ม) “